ทำไมต้องหา รายได้เสริม
ในภาวะปัจจุบันที่ ข้าวของ เครื่องใช้ ในชีวิตประจำวันของเรา มีราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง หรือที่เรียกว่า ภาวะเงินเฟ้อนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในแต่ละปีนั้น เงินเฟ้ออาจจะสูงถึง ปีละ 5% หรือเรียกได้ว่า สินค้าโดยรวมที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด มีราคาแพงขึ้นเฉลี่ย 5%
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้าน ราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าโดยรวม ปรับตัวสูงขึ้น หรือค่าไฟที่แพงขึ้น ค่าแรงวันละ 300 บาท ก็เป็นข้ออ้างให้ เจ้าของธุรกิจหลายๆ คน ฉวยโอกาส ปรับราคาสินค้า ให้สูงกว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น เป็นอย่างมาก เช่น ค่าแก๊สหุงต้มอาจจะเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 2 บาทต่อ 1 ชามก๋วยเตี๋ยว แต่ก็ปรับราคาเพิ่ม 5 บาท เรียกได้ว่า กำไรบานเบอะ เลยทีเดียว
เมื่อได้คุยกับหลายต่อหลายคน ที่ทำงานประจำ ก็พบว่า หากไม่ได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว เงินเดือนที่ได้รับการปรับขึ้นในแต่ละปี ยังไม่ถึง 5% เลย ซึ่งเรียกได้ว่าน้อยกว่าเงินเฟ้อซะอีก ทำให้ซื้อข้าวของ เครื่องใช้ ได้น้อยลงๆ เรื่อยๆ คนที่ทำงานประจำหลายคนจึงจำเป็นต้องหา รายได้เสริม เพื่อเข้ามาจุนเจือครอบครัว มาจ่ายค่าเทอมลูก หรือผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ที่ยังติดหนี้ธนาคารอยู่
อย่างไรก็ตาม การหารายได้เสริมนั้น เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องแล้ว สำหรับคนที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง มีเงินไม่พอใช้ เรียกได้ว่า ดีกว่าอีกวิธีหนึ่ง ที่คนขี้เกียจมักจะใช้กันเป็นข้ออ้างด้วย นั่นคือ การประหยัดเพียงอย่างเดียว
แต่ถ้าเราไม่หลอกตัวเองแล้ว การประหยัดยังไงก็สู้หาเพิ่มไม่ได้ อย่างแน่นอน และการมีรายได้หลายทาง มีเงินจากหลายกระเป๋า ยังไงก็ดีกว่า มีรายได้ทางเดียว จากกระเป๋าเดียว จริงมั้ยครับ บางคนเลือกทำงานเสริม งาน Part time เช่น งานออนไลน์ งานพิมพ์งาน งานคีย์ข้อมูล เพื่อจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม เพราะเป็นวิธีที่ง่าย เป็นวิธีที่ทำที่ไหนก็ได้ แค่มีเอินเตอร์เน็ตกบคอมพิวเตอร์ ทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ตังก์แบบรายวันกันเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น